Quote
ว็บพนักงานขาย ก็คือเว็บ เขียน review ใช่ใหมครับ
ประมาณเขียน review สินค้า
เวบ review มันก็ดีนะครับ แต่ผมว่าคนเค้าจะอ่านอย่างเดียวแล้วไม่ซื้ออะดิครับ
ผมว่าคนที่เค้าจะซื้อของอย่าง เกม PS3 เค้าคงไม่ต้องมาอ่าน review แล้วครับ
ถ้าเค้าหาซื้อเค้าคงมา search ดูว่า จะไปซื้อที่ไหนดี
และบังเอิญ เค้า search มาเจอ เวบผมที่บอกว่า ที่นี่เท่าไร ที่นั้นเท่าไร แล้วคลิ้กไปซื้อได้เลย ไม่ต้องขับรถออกไปซื้อ
คือเวบ ผมจะหน้าตา คล้ายกับ Bizrate (แต่ไม่เหมือนนะ ไม่ได้กอปเค้านะครับ)
คือผมชอบ Bizraye ตรงที่มันดูเรียบง่ายดี ดูสะอาดตา
สร๋จแล้วก็เอา amazon มาใส่เข้าไปคือ Product Features และ Details
แต่ไม่ต้องใส่เยอะ ผมคิดว่า amazon เค้าใส่เยอะเกินไป เวบเลยดูมีตัวอักษรเยอะไปหน่อย
ผมชอบ Amazon ตรงที่สวย ข้อมูลดี
เสร็จแล้วก็จัดการเชียร์เลย ปกติถ้าไปร้านเหล้าบ่อยๆ จะมีเด็กมาเชียว่า กินblackี่ซิค่ะดีอย่างนี้อร่อยขายดี กินredก็จะได้แบบนั้น
คือบอกเค้าไปเลยว่า ซื้อมันที่เบอร์ 1 เลย มันถูกที่สุด แต่ถ้าไม่พอใจ ซื้อที่เบอร์2 ก็ได้
ผมเรียกว่า my comment เป็นพนักงานขายต้อเชียไปเลย ไม่ต้องอาย คลิกที่ลิ้ง เข้าไปที่เวบเจ้าของสินค้า แล้วซื้อเลย (กูได้ค่าคอมทุกลิ้ง)
เราไม่ได้เชียให้ซื้ออะไร แต่เราเชียร์ให้ซื้อที่ไหน
ทุกอย่างนี้ ผมได้ไอเดียมาจาก
วันหนึ่งผมจะไปซื้อ tv lcd ของ samsung แต่ปัญหาของผมคือ ไม่รู็ว่าผมจะไปซื้อที่ไหนดี
ผมก็ต้องนั่งโทรไปถามว่าที่ powerbuy ขายกี่บาทแถมอะไรมั่ง ที่homepro กี่บาท ที่ไหนเท่าไรบ้าง แต่ละที่ราคาไม่เท่ากัน
สรุป คือไปผมซื้อที่ร้านเครื่องไฟฟ้าที่ บ่้านหม้อ เพราะ ราคาถูกที่สุด ไม่มีของแถม ผมจำชื่อร้านไม่ได้ ถ้าใครจะซื้อไปร้านนี้ ถูกสุดในประเทศไทยแล้วครับ (แต่เค้าไม่รับบัตรเครดิต) มันเป็นร้านขายส่ง
ความจริงของโลกคือ คนต้องการซื้อของที่ราคาถูกที่สุด ถ้า TV samsung lcd คุณรู็้ว่าร้านนี้ถูกที่สุด แล้วคุณจะซื้อไหม
ใน internet มันไม่ต้องขับรถไปซื้อ ไม่ต้องเปลือน้ำมัน
ผมก็เลยมาคิดว่า ทำไมไม่มีคนมานั่งทำอะไรที่พอถามแล้วบอกได้เลยว่า ที่ไหนราคาเท่าไร จะได้ไม่ต้อง โทรไปถามหลายๆที่เสียเวลา
ก็ตีแตก ตอบ โจทย์ ไปเลยว่า คนจะซื้อ TV samgsung LCD เค้าต้องการจะรู็้อะไร?
แล้วธรรมชาติของคนที่มาค้นหาราคาสินค้า คือคนที่กำลังจะซื้ออยู๋แล้ว
มันก็มาลงเอยที่แนวคิด landing page
ที่มาบอกนี่ ไม่ได้กลัวใครมาแข่งนะครับ ทุกวันนี้ มีคนทำแบบผมหลายคนแล้วครับ ก่อนผมทำก็มีคนทำอยู๋ก่อน แข่งกันมั่วไปหมด
บางเวบกอปผมไปทั้งเวบ แม้แต่โค้ด google atalytic มันยังกอปไปเลย ผมเลยรู้เลยว่าเวบเค้าใช้คีเวิอรดอะไร
ผมทำยอดขายได้อยู๋ตัวแล้วครับ แบบที่รู็กัน ก็มาบอกไอเดียให้ลองอ่านกันดู
cheesy cheesy
เอาชีวิตจริง life style จริง มาเป็นแนวคิดการทำ landing page ครับ
คนต่างชาติ มันก็ไม่ต่างกับเราครับ
และสุดท้ายอย่าลืม สิ่งที่ผมขอไว้
1.ถ้าอ่านแล้ว เอาไปทำแล้วขาดทุน ก็อย่ามาว่ากันนะครับ ข้อมูลผมไม่ใช่หมายความว่าอ่านแล้วเอาไปทำตามแล้วจะได้กำไรแน่นอน
2. ถ้าอ่านแล้วมีประโยชน์ผมขอ 50 บาท บริจาคให้ วัดพระบาทน้ำพุ หลวงพ่ออลงกต บริจาคแล้วไม่ต้องเมล์มาบอกผม รู้แค่คุณคนเดียวพอ cheesy
3.ข้อมูลผมเป็นฟรี ใครจะก้อปเอาไปทำอะไรก็ได้ จะไปลงเวบ ลงบล้อค ทำเป็นebookขายในclickbank หรือจะปริ้นแล้วเอาไปเช็ดตูด ก็ได้
แต่ผมขอ 100 บาท บริจาคให้ วัดพระบาทน้ำพุ หลวงพ่ออลงกต บริจาคแล้วไม่ต้องเมล์มาบอกผม รู้แค่คุณคนเดียวพอ cheesy
cheesy cheesy
มีอะไรก็จะมาเล่าอีกครับ
ช่วงนี้ผมเบื่อมาก ขีเกียจสุดๆ บางที 2 วันมาเปิดคอมที
ค่อยๆ ทำกันครับ ถ้าได้กำไร ก็อย่าเอาไปใช้หมด เอามาลงทุนต่อ ซื้อกองทุน ซื้อหุ้น(ยิ่งช่วงนี้ใกล้จ่ายปันผล และตลาดหุ้นลงมาเยอะใครคิดจะลงทุนคงเป็นช่วงนี้ดีที่สุด หุ้นปันผลดีมีเยอะ) หรือ ซื้อพันธบัตร ดีกว่าฝากแบงค์
เอาเงินไปต่อเงินเรื่อยๆ ผมก็เอากำไร80% ของผมไปลงทุนต่อ
Iphone-wallpaper (Special)
15 ปีที่ผ่านมา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น